ณ เวลานี้ความดังของวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ดังไกลไปทั่วสารทิศ ไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้ไกลก็อยากที่จะมากราบไหว้ขอพร สำหรับเรายิ่งเป็นสายมูแล้วละก็ถึงแม้จะไม่ค่อยมีเวลายังไงก็ต้องมาให้ได้ จัดไปค่ะ 1 Day Trip ไหว้ "ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" ณ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 

 

 ถ้ามีเวลาน้อยเดินทางด้วยเครื่องบินสะดวกมากค่ะ  เราลงเครื่องตอน 12.25 น. และเช่ารถจาก AN รถเช่านครศรี จากสนามบินเดินทางไปถึงวัดเจดีย์ใช้เวลาเพียง 1 ชม. (เราแปะเบอร์เช่ารถไว้ให้เผื่อเพื่อน ๆ สนใจค่ะ 090-168-1385)

ตลอดเส้นทางที่ไปวัดเจดีย์เราจะเจอร้านขายของสำหรับไหว้ไอ้ไข่เต็มสองข้างทาง มีให้เลือกหลายร้านเพื่อน ๆ สะดวกร้านไหนเลือกได้ตามสบายเลยค่ะ ทริปนี้ขอรีวิวแบบละเอียดยิบพร้อมทั้งมีวิธีบูชามาฝากด้วยค่ะ

 

 

 ถ้ามีเวลาน้อยเดินทางด้วยเครื่องบินสะดวกมากค่ะ  เราลงเครื่องตอน 12.25 น. และเช่ารถจาก AN รถเช่านครศรี จากสนามบินเดินทางไปถึงวัดเจดีย์ใช้เวลาเพียง 1 ชม. (เราแปะเบอร์เช่ารถไว้ให้เผื่อเพื่อน ๆ สนใจค่ะ 090-168-1385)

ตลอดเส้นทางที่ไปวัดเจดีย์เราจะเจอร้านขายของสำหรับไหว้ไอ้ไข่เต็มสองข้างทาง มีให้เลือกหลายร้านเพื่อน ๆ สะดวกร้านไหนเลือกได้ตามสบายเลยค่ะ ทริปนี้ขอรีวิวแบบละเอียดยิบพร้อมทั้งมีวิธีบูชามาฝากด้วยค่ะ

ทำไมถึงต้องมาไกลถึงวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ตำนานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวปักษ์ใต้เลื่อมใสศรัทธา โดยเชื่อว่าสามารถบันดาลโชคลาภและความร่ำรวยให้แก่ผู้บูชา เล่าลือกันว่าไอ้ไข่นั้น "ขอได้ไหว้รับ"  ตำนาน ไอ้ไข่ นั้น มีมากมายหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งที่ว่าไอ้ไข่คือวิญญาณเด็กที่ติดตามหลวงพ่อทวด เมื่อหลวงพ่อทวดธุดงค์มาที่วัดร้างแห่งนี้ และให้วิญญาณดวงนี้เฝ้าดูแลปกปักษ์รักษาทรัพย์สินของแผ่นดินที่อยู่ภายในวัดไว้ ในขณะที่บางตำนานเล่าว่า ไอ้ไข่ คือเด็กที่เคยวิ่งเล่นอยู่ในวัดเมื่อนานมาแล้ว ต่อมาเด็กคนนั้นประสบอุบัติเหตุตกน้ำเสียชีวิต วิญญาณของเด็กผูกพันอยู่กับวัด ก็เลยสถิตย์ที่วัดนี้ตั้งแต่นั้นมา

 แต่สิ่งที่ทำให้ ไอ้ไข่ นั้น โด่งดังขึ้นมาก็คือ เหตุการณ์ของกองร้อยทหารพรานที่มาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวอยู่ วัดเจดีย์ ในคืนแรกที่มานั้นทั้งกองแทบไม่ได้หลับเลย เพราะมีเด็กมาเล่นหยอก ดึงแขนดึงขาตลอดทั้งคืน ตอนเช้าก็เลยเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ชาวบ้านฟัง ชาวบ้านเลยเล่าเรื่องของไอ้ไข่ให้ฟัง เลยบอกให้ทหารกลุ่มนี้ไหว้สักการะดวงวิญญาณไอ้ไข่ และให้เอาอาหารมาเซ่นไหว้ให้กับไอ้ไข่ด้วย หลังจากนั้นทุกอย่างก็สงบ ไม่มีสิ่งใดมารบกวน ทหารพรานเลยเอาเรื่องนี้มาเล่าต่อให้คนภายนอกฟัง ชื่อเสียงของไอ้ไข่ก็เลยเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นไปอีก

เมื่อมาถึงที่วัดจุดแรกที่เราจะเจอ คือบริเวณสำหรับวางของไหว้ต่าง ๆ ชุดของไหว้ไอ้ไข่ก็จะมี แฟนต้าน้ำแดง,น้ำเปล่า,ขนมเปี๊ยะ,ไก่คู่ และหนังกะติ๊ก หรือของเล่น ซึ่งเป็นของชอบของไอ้ไข่

เมื่อเข้ามาบริเวณด้านในจะมีจุดให้ไหว้ขอพรอยู่หลายจุด

สำหรับวิธีบูชาไอ้ไข่วัดเจดีย์ บูชาอย่างไรให้สมหวัง

สำหรับผู้ที่ต้องการบูชาและบนบานไอ้ไข่วัดเจดีย์ ให้ซื้อดอกไม้ ธูป เทียน และทองคำเปลว ตามกำลังศรัทธา ก่อนจะจุดธูป 3 ดอก สวดบทบูชาพระรัตนตรัย และสวดบทนมัสการพระพุทธเจ้า ดังนี้

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (สวด 3 จบ)

 

หลังจากสวดบทสวดข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งจิตเป็นสมาธิ เรียกชื่อ "ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์" และสวดคาถาไอ้ไข่ ดังนี้

อิติ อิติ กุมารไข่เจดีย์ จะมะหาเถโร ลาภะ ลาภา ภะวันตุเม

 

เริ่มอธิษฐานขอพรให้สำเร็จ สมความปรารถนาทุกประการ แล้วจึงนำทองคำเปลวไปติดที่ไม้แกะสลักรูปไอ้ไข่ เคล็ดลับในการบนบานแนะนำให้ขอทีละเรื่องและบอกให้ชัดเจน เช่น หากขอให้ได้งาน ก็ต้องระบุว่างานประเภทใด ภายในระยะเวลานานเท่าไร หากขอให้ขายของได้กำไร ก็ให้ระบุว่าอยากให้ได้เดือนละเท่าไร ซึ่งกลายเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ "ขอได้ไหว้รับ" นั่นเอง

สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้กราบไหว้บูชาไอ้ไข่จะต้องยึดถือเป็นที่ตั้ง ก็คือ "การมีสัจจะ" เมื่อสิ่งที่บนบานไว้สำเร็จผลลุล่วง จะต้องมาแก้บนตามที่ได้รับปากไว้ ซึ่งสอดคล้องกับตำนานไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ เมื่อครั้งที่ให้สัจวาจาต่อหลวงปู่ทวดว่าจะดูแลรักษาวัดเจดีย์ ทำให้เชื่อว่าไอ้ไข่ชอบคนที่มีสัจจะ ใจนักเลง พูดคำไหนคำนั้น ขอได้ไหว้รับ จึงเป็นคำติดหูที่ได้ยินกันอยูเนืองๆ

 

เมื่อเดินไหว้ครบทุกจุดแล้ว จุดสุดท้ายที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือที่สำหรับจุดประทัด

ณ จุดนี้จะมีจนท.บริการจุดประทัดให้เราค่ะ  ที่หางประทัดจะมีเลขเสี่ยงดวงด้วยนะคะ งวดนี้แหละต้องเป็นของเรา คริคริ ต่อจากนี้ขอให้ชีวิตเฮง ๆ ปัง ๆ ดังไกลเหมือนกับเสียงประทัดไปเลย สาธุ!!

เมื่อจบการไหว้ขอพรที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) เรียบร้อยแล้ว เราได้มีโอกาสแวะไปไหว้  องค์พระพิฆเนศนาคา และพรานบุญ ต่อค่ะ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

 

ผ้าขาวม้าที่เราเห็นแขวนอยู่ด้านบนนั้น คือผ้าขาวม้าที่ชาวบ้านมานำแก้บนให้กับพรานบุญค่ะ อยากรู้ว่าศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหนดูจากผ้าที่ห้อยได้ค่ะ

 

ก่อนขึ้นเครื่องกลับกทม. ขอแวะรองท้องที่ “ร้านโกปี๊ นครศรีธรรมราช” สักหน่อย อิ่มอร่อยสมคำร่ำรือจริง ๆ ค่ะ

 จบทริปการไหว้พระขอพรที่ นครศรีธรรมราชเรียบร้อย หวังว่าจะได้กลับมาแก้บนอีกครั้งนะเจ้าคะ เพี้ยง!! เพื่อน ๆ ที่มีเวลาน้อยการไหว้ขอพรวันเดียวจบแบบเราก็สะดวกดีนะคะ เดินทางง่ายไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดเลยค่ะ ขอให้ทุกคนที่มีโอกาสมา เฮง ๆ ปัง ๆ กันถ้วนหน้า สมหวังทุกประการนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ!