10 จุด Check in เบตง...ฉันรักเธอ

“เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน”

สิ่งที่ผมรักนอกจากผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างแล้ว “เบตง” ยังเป็นสถานที่ ๆ ผมหลงรักอย่างหัวปัก หัวปำ เบตงเป็นเมืองเล็ก ๆ อยู่กลางหุบเขามีธรรมชาติที่สวยงาม จนทำให้ลืมความวุ่นวายในเมืองหลวง

“เบตง” เป็นหนึ่งในอำเภอของ จ.ยะลาตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความฝันของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนที่อยากเดินทางมาที่นี่ เมืองที่เต็มไปด้วยความเรียบง่าย ธรรมชาติที่น่าสัมผัส และประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ ผู้คนที่นี่มีหลายเชื้อชาติ หลายวัฒธรรม และทุกคนต่างเป็นมิตร มีรอยยิ้มหวาน ๆ และให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น

จุดมุ่งหมายของเราในวันนี้คือ “เขาฆูนุงซีลีปัต” ระหว่างทางเราได้สัมผัสทัศนียภาพของ “สะพานข้ามเขื่อนบางลาง” ซึ่งอยู่บริเวณบ้านคอกช้างกับบ้านกระป๋อง ต.แม่หวาด อ.ธารโต (ทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา-เบตง) ความเป็นมาของเขื่อนบางลาเป็นเขื่อนที่สร้างเพื่อกั้นแม่น้ำปัตตานีตามแผนพัฒนาโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกทางภาคใต้ ซึ่งเป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว มีความสูง 85 เมตร สันเขื่อนยาว 430 เมตร อ่างเก็บน้ำจุได้ 1,400 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่รับน้ำเหนือเขื่อน 2,080 ตารางกิโลเมตร

กิจกรรมภายในเขื่อนสามารถล่องเรือแพชมทัศนียภาพของเกาะแก่งเหนือเขื่อนบางลาง ชมวิถีชิวิตประมงพื้นบ้านที่ใช้ชีวิตแบบ Slow Life แลดูสบาย สบาย ไม่ต้องรีบร้อนอะไร ชมความสมบูรณ์ของป่าบาลา-ฮาลา (ชื่อป่าเค้าเท่ห์จริง) ด้วยความงามของทัศนียภาพ ทำให้คนที่ผ่านมาไม่พลาดที่จะต้องถ่ายรูปเก็บไว้

**ทริปนี้สาระเพียบ เล่าละเอียดเหมือนคุณได้มาเที่ยวกับเรา :)

 

1.Locationสะพานข้ามเขื่อนบางลาง: https://goo.gl/maps/EZVx8LQZyvUCLNo97

ไปกันทำไม? แล้ว เขาฆูนุงซีลีปัต Gunungsilipat มีอะไร?

ขาฆูนุงซีลีปัต Gunungsilipat ตั้งอยู่ที่ กม.28 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา สามารถมองได้รอบตัว 360 องศา ยอดสูงถึง 607 เมตร จากระดับน้ำทะเล “Signature คือ จุดชมทะเลหมอกเบตง” นี่คือสิ่งที่ทำให้พวกเราต้องมาสัมผัสให้ได้ ที่นี่จะอยู่ห่างจากในเมืองเบตง ประมาณ 22 กิโลเมตร (ไปตามเส้นทางหมายเลข 410  ยะลา - เบตง )

ก่อนเดินทางกองทัพต้องเดินด้วยท้อง จุดนัดหมายของเราจึงอยู่ที่ร้านอนาเซีย ก๋วยเตี๋ยวกะลา กม.28 เป็นก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยที่สุดเพราะได้กินท่ามกลางธรรมชาติ อากาศที่เย็นสบาย

ส่วนการเดินทางที่จะขึ้นไปชมทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต สามารถเที่ยวได้แบบวันเดียวโดยขึ้นไปชมทะเลหมอกในตอนเช้า แล้วเลือกพักที่ตัวอำเภอเบตง หรือจะพักค้างแรมข้างบน พักได้ที่จุดกางเต็นท์ ซึ่งห่างจากจุดชมวิวประมาณ 200 เมตร โดยเส้นทางขึ้นมาชมทะเลทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต  มีสองเส้นทางให้เลือก 2 ทาง คือ เส้นทางแรกสำหรับคนที่ไม่ชอบเดินไกล คือนั่งรถโฟวิลจากปากทางขึ้นไป ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีก 700 เมตร  เส้นทาง 500เมตรแรก เดินผ่านสวนยางที่ต้องไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ชันมากนัก จะชันที่สุดในช่วง 200 เมตรสุดท้ายที่ต้องไต่ขึ้นยอดเขาเป็นหินและมีเชือกให้จับเดินไปก็จะถึงจุดชมวิว

อีกเส้นทาง คือเข้าทางหลักกิโลเมตร  ก.ม. 28 สำหรับสายแอดเวนเจอร์ ที่ชอบเดินป่า โดยนั่งรถโฟวิล แต่ครั้งนี้บังเอิญว่าคนขับรถโฟวิลไม่อยู่ จึงได้นั่งรถมอเตอร์ไซค์วิบากของพวกพี่ ๆ ขึ้นไป ประมาณ 3 ก.ม. ทุลักทุเลนิดหน่อย แต่ก็เต็มไปด้วยความสนุก จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีก 2 กิโลเมตร เราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ 2 ข้างทาง ส่วนทางขึ้นจะค่อนข้างชัน เป็นเนินเขาไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงที่พัก ใครที่อยากพิสูจน์รักแท้ให้มาตามเส้นทางนี้รับรองรู้เรื่อง! เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำหรับการค้างคืน

พอถึงช่วงเย็นก็ได้เวลาขึ้นยอดเขาเพื่อไปชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตก โรแมนติกอย่าบอกใคร ตกกลางคืนได้เวลาของกิจกรรมปื้งย่าง รอบกองไฟ ใครที่ชอบกินหมูกระทะผมว่าแฮปปี้สุด ๆ  ใครอยากได้ความโรแมนติกก็สามารถเดินขึ้นยอดเขาไปดูดาวได้นะครับ วิวดีคะแนนเต็ม 10 ให้ 100 เลย

 เช้ามืดแล้ว เวลาที่เรารอคอยก็มาถึง ทะเลหมอกจ๋าพี่มาแล้วจ่ะ เอาจริง ๆ ผมแทบไม่อยากนอนตื่นเต้นอยากให้ถึงเช้ามืดไว ๆ ก็นั่งเตรียมกล้องให้พร้อมไม่อยากให้พลาดช่วงเวลาที่สำคัญ ระหว่างทางขึ้นเขา เราแวะถ่ายรูปได้ตลอดทาง จุดเด่นของที่นี้เราจะเห็นวิวทะเลหมอก ได้ 360 องศา ว้าวมาก ๆ เรียกได้ว่า “สวรรค์บนดินมีอยู่จริง” ต้องไปเห็นและสัมผัสด้วยตัวเอง เหมือนเราได้หลุดออกไปอยู่อีกโลกนึง

ค่าเดินทางสู่ยอดเขาฆูนุงซีลีปัตไม่แพงอย่างที่คิด
1 คน 1500 บาท
2 คนละ 1300 บาท
3 คนละ 1000 บาท
5 คนขึ้นไป คนละ 800 บาท
**ราคานี้คือรวมอาหารเย็น อาหารเช้าและค่าที่พัก ผมว่าเกินคำว่าคุ้มนะ

 

2.Location ร้านอนาเซีย ก๋วยเตี๋ยวกะลา: https://goo.gl/maps/f7ggGdCkviJQ3dDq9
Tel. : 081-0938549 เฮง 082-2656900 ซู

ผมจะพาคุณย้อนอดีตไปสัมผัสกับอุโมงค์ดินที่อดีตขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มลายา เป็นผู้สร้างขึ้น! นั่นก็คือ...

“อุโมงค์ปิยะมิตร” ซึ่งตั้งอยู่ หมู่ 2 บ้านปิยะมิตร 1 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง  อุโมงค์นี้ใช้เป็นฐานปฏิบัติการต่อสู้ทางการเมือง แต่ต่อมาได้กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย  อุโมงค์ปิยะมิตร สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง ในปัจจุบันได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในอดีต

บริเวณทางเข้ามีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ให้ได้ไหว้สักการะขอพร เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในอุโมงค์จะได้สัมผัสความรู้สึกแบบที่ย้อนไปในอดีตพร้อมมีไฟแบบสลัว ๆ ตามทางเดินจะมีข้อความบ่งชี้ว่าจุดนี้คืออะไร ใช้ทำอะไร เช่น ที่นอน ที่นั่ง ที่ประชุม เป็นต้น ซึ่งระยะทางในอุโมงค์นี้มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร คดเคี้ยวไปมาภายในภูเขา มีอากาศถ่ายเทและเย็นสบาย

บรรยากาศภายนอกอุโมงค์ก็จะพบทั้งป่าไม้ ลำธารที่ค่อนข้างสะอาดสดชื่น และมีต้นไทรพันปี ที่มีขนาดลำต้นสูงใหญ่มาก จนกลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินที่สำคัญ ณ จุดนี้ ผมรู้สึกสงบและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกได้แต่สูดอากาศให้ชุ่มปอด ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้มาอีกต้องสูดให้เต็มที่

บริเวณภายนอกอุโมงค์ซึ่งเคยเป็นลานกว้างสำหรับฝึกกำลังพล แต่ปัจจุบันได้มีการจัดนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ สำหรับให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ด้วยครับ

3.Location อุโมงค์ปิยะมิตร : https://goo.gl/maps/NkC1XJYjyypFmatF8

 

“บ่อน้ำร้อนเบตง” มาถึงจุดที่จะได้กินไข่ลวกกันแล้ว จะไข่นกกระทาหรือไข่ไก่ก็ลวกได้หมดแล้วแต่ชอบเลยครับ

บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ โดยจะมีน้ำร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดิน ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ อุณหภูมิน้ำประมาณ 80 องศา คือจุดที่มีน้ำเดือดที่สุด สามารถนำไข่ไก่ ไข่นกกระทาต้มทานได้ โดยจะใช้เวลาต้มประมาณ 10-20 นาทีก็สุกแล้ว และยังมีมุมที่นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนได้ด้วยนะครับ แต่ละโซนออกแบบได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ ทั้งบ่อน้ำร้อนบ่อใหญ่ บ่อแช่น้ำร้อนใหม่ และอาคารธาราบำบัด โดยเชื่อกันว่าน้ำแร่แห่งนี้ สามารถบรรเทารักษาโรคต่าง ๆ ได้ดี อาทิ โรคปวดเมื่อย โรคเหน็บชา โรคผิวหนัง เป็นต้น

ที่นี่ยังมีอาคารสำหรับพักค้างคืนให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บ่อน้ำร้อนเบตงเปิดให้บริการทุกวัน 09.00-17.00 น.

4.Location น้ำพุร้อนเบตง : https://goo.gl/maps/QkGUzQEs994SwCpB8

 

 

บ้านโบราณสุดชิค ณ หมู่บ้านฮากกา หรือ หมู่บ้านแม่กำปองเบตง

ตั้งอยู่ที่ ตำบล ตะเนาะแมเราะ อำเภอเบตง ยะลา  เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งแต่เดิมเป็นกลุ่มชาวจีนที่อพยพมาจากมณฑล กวางสี ได้มาอาศัยตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ที่นี่ ลักษณะบ้านจะเป็นห้องแถวโบราณส่วนใหญ่ทำจากไม้ หมู่บ้านฮากกายังมีชื่อเสียงในเรื่อง เป็นแหล่งการผลิต และ จำหน่ายเฉาก๊วยหรือวุ้นดำมาจนถึงปัจจุบัน จนได้ชื่อว่า “ของดีเมืองเบตง ที่เป็นอันดับหนึ่ง” คู่แข่งเฉาก๊วยชากังราวเค้าเลยล่ะครับ

5.Location หมู่บ้านฮากกาหรือหมู่บ้านแม่กำปองเบตง : https://goo.gl/maps/5wyVXNv1SYJyTMt2A

 

 

“ป้ายใต้สุดสยาม” มาแล้วต้องรีบ Check in เดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึง

ป้ายใต้สุดสยามป้ายประเทศไทยกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย มีเอกลักษณ์ลายเส้นแผนที่ประเทศไทยสีทองโดดเด่นสลักบนป้ายหินอ่อน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติและไม้ดอกไม้ประดับอันงดงาม เป็นสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

ตั้งอยู่บริเวณชายแดนปลายสุดถนนทางหลวงหมายเลข 410 ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นแนวเขตแดนระหว่างอำเภอเบตง กับรัฐเปรัคประเทศมาเลเซีย

6.Location ป้ายใต้สุดสยาม : https://goo.gl/maps/7P2dbXcuf5uotnCp7

 

 

Are you ok? “OK BETONG” ไม่ผิดใช่ไหมถ้าตั้งใจแวะมาถ่ายรูปคู่กับป้าย

ความเป็นมาของ OK BETONG เป็นอำเภอชายแดนใต้สุดของประเทศไทย อยู่ห่างจากยะลา 115 กม. เบตงเป็นเมืองใหญ่ มีความเจริญ ทัดเทียมกับจังหวัดยะลาเลยทีเดียว มีอาคารร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมมากมาย มีถนนเชื่อมสู่เขตสหพันธรัฐ มาเลเซียตรงด่านเบตงซึ่งอยู่ใต้สุดของเขตแดนไทย ตัวเมืองตั้งอยู่ในเขตที่โอบล้อมด้วยทิวเขาสูงอากาศเย็นสบาย สามารถปลูกดอกไม้ได้ทั้งปี  มีนกนางแอ่นเป็นสัญญลักษณ์ของเมือง ช่วงเดือนกันยายน-มีนาคม จะมีนกนางแอ่นมาพักอาศัยในเมืองนี้นับแสนตัว เยอะจริงอะไรจริง

7.Location OK Betong : https://goo.gl/maps/ozgEDU9aekWJWjEU8

 

“ตู้ไปรษณีย์” ใหญ่ที่สุดในโลก!! It's very big!!

ตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ลักษณะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก มีเส้นวงรอบของตู้ประมาณ 140 เซนติเมตร มีความสูง 290 เซนติเมตร ด้านบนของตู้ได้บรรจุลำโพงไว้ข้างในและเจาะรูกลม ๆ ไว้รอบ ๆ เพื่อกระจายเสียงรายงานข่าวสารของทางราชการ มีอายุรวม 86 ปี

ปัจจุบันได้มีการสร้างตู้ไปรษณีย์ขึ้นใหม่ใหญ่กว่าเดิม ที่บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ มีความสูงประมาณ 9 เมตร ที่นี่จึงเป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

และกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด  คือ ท่องราตรีในตัวเมืองเบตง ชมวีถีชีวิตของผู้คน อาคารบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ถ่ายภาพสตรีทอาร์ตน่ารัก ๆ ที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของความเป็นเบตงได้อย่างดีเยี่ยม ภาพพี่ตูนก็มีนะครับ ขวัญใจของคนเบตงเค้าเลย ผมว่าภาพสตรีทอาร์ตยังช่วยแต่งแต้มสีสันให้เมืองเบตงมีบรรยากาศที่สดใส ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากเลยล่ะครับ

8.Location วงเวียนหอนาฬิกาเบตง https://goo.gl/maps/FtKXUiuxhp8EQDUT6